เป็นเรื่องน่าตกใจไม่น้อยเลย ที่ยุคนี้ ’ปัญหาทะเลาะวิวาทระหว่างเยาวชนวัยเรียนต่างสถาบัน“ ในประเทศไทย ได้ลุกลามบานปลายไม่หยุด จนล่าสุดไม่เพียงทำร้ายกันไปกันมาแบบในอดีต แต่ถึงขั้นมีการ ’ตั้งกลุ่มไล่ฆ่า“ กันเลย!! ซึ่งก็รังแต่จะยิ่งทำให้ผู้ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เดือดร้อน ดังที่เพิ่งจะมีข่าวครึกโครม
และที่เดือดร้อนแน่ ๆ คือผู้ที่ทำ และพ่อแม่
นี่เป็นเรื่องแย่ ๆ ที่ทำแล้วไม่มีใครได้อะไร!!!
ทั้ง นี้…“…มันก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มันมาพร้อมกับความสูญเสีย ซึ่งอยากฝากถึงวัยรุ่นที่มองเรื่องแบบนี้อย่างไม่เกรงกลัวว่า…ความรู้ที่ ร่ำเรียน หรืออะไรดี ๆ ในชีวิตที่มีอยู่ก็ตาม มันจะไม่มีค่าใด ๆ เลย เมื่อชีวิตต้องสิ้นสุดลงจากการตกเป็นเหยื่อ หรือตัวเองต้องได้ชื่อว่าเป็นอาชญากร เป็นฆาตกร…”
…นี่เป็นเสียงของวัยรุ่นวัยเรียนรายหนึ่งที่ ’คิดได้“ ที่เคยสะท้อนถึงกรณีนี้ไว้
ส่วน ถ้าจะขยายความซ้ำถึงเรื่องแย่ ๆ ทำนองนี้ในทาง “กฎหมาย” ว่ากันโดยสังเขป…กรณีเป็นฝ่ายที่ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต มีการนำอาวุธไปลุยกับกลุ่มอื่น หรือไปรุมคนอื่น แม้ฝ่ายที่ถูกกระทำอาจจะแค่บาดเจ็บ ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต จะอย่างไรก็ตามข้อหาที่เกิดขึ้นแน่ ๆ ก็คือข้อหา “พยายามฆ่า” ซึ่งเมื่อดูกันตามประมวลกฎหมายอาญา อัตราโทษคือ 2 ใน 3 ส่วนของโทษประหารชีวิต นั่นก็คือ “มีโทษจำคุก 50 ปี”
ถ้าเป็นกรณี “ร่วมกันฆ่า” อย่างการไปกันเป็นกลุ่มแล้วมีการก่อเหตุ “ฆ่าคนตาย” แม้จะมิใช่ผู้ที่ลงมือฆ่าโดยตรง แต่ไปก่อเหตุเป็นกลุ่มแล้วมีคนถูกฆ่าตาย “โทษก็หนักหนาสาหัสเช่นเดียวกับโทษฆ่าคนตาย”
ยิ่งโทษคดีฆ่าคนตาย โดยมีการเตรียมตัวเตรียมอาวุธ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ถือเป็นการ “ฆ่าผู้อื่นโดยการไตร่ตรองไว้ก่อน” เป็นความผิดที่ร้ายแรง “มีโทษถึงประหารชีวิต”
หรือต่อให้ผู้กระทำเป็นผู้ที่อายุเกิน 15 ปี แต่ต่ำกว่า 18 ปี หรืออายุเกิน 18 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี ซึ่งศาลอาจเมตตาลดโทษลงให้กึ่งหนึ่ง หรือลดโทษลงให้ 1 ใน 3 จะอย่างไรก็ไม่พ้น “เสียอิสรภาพ-เสียอนาคต”
ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครอง ของผู้ต้องคดีเกี่ยวกับการ ’ฆ่า“ ก็อาจต้อง ’เสียทรัพย์สินมากมาย“ และปะเหมาะเคราะห์ร้ายอาจต้องพลอย ’เสียอิสรภาพตามลูกหลานผู้กระทำการเขลา ๆ“ ไปด้วย!!
ทางฝ่ายที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิต อาจจะมีการ ฟ้องร้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหาย-ค่าชดเชย จากฝ่ายที่กระทำผิด ซึ่งถ้าผู้กระทำผิดยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็ ฟ้องร้องเอาจากพ่อแม่ของผู้กระทำผิด ได้
อีกทั้งตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองเด็ก เมื่อลูกใครไปก่อคดีร้าย ๆ พ่อแม่อาจเจอโทษจำคุก 3 เดือน ด้วย ฐานปล่อยปละละเลยไม่ดูแลเอาใจใส่ลูก เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่ามีการดูแลอย่างดีแล้ว…แต่ลูกไม่รักดีเอง
นี่แหละที่ว่า…เดือดร้อนแน่ ๆ คือผู้ที่ทำ
และ…พ่อแม่ผู้ที่ทำก็ต้องเดือดร้อนด้วย
ทั้ง นี้ โดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากเรื่องแย่ ๆ ทำนองนี้ ทาง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ก็ได้เคยหยิบยกมาเน้นย้ำไว้บ้างแล้ว ซึ่งท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ดีขึ้น ซ้ำยังดูเหมือนจะลุกลามบานปลายไปเรื่อย ๆ จนยุคนี้ถึงขั้น “วัยรุ่นวัยเรียนมีการตั้งเป็นแก๊งนักฆ่า” กันเลยทีเดียว ก็ต้องเน้นย้ำกันอีก…
กรณี “วิวาทวัยเรียน-นักฆ่าวัยเรียน” เมื่อมีเหตุรุนแรงขึ้นถึงขั้นเกิดการ “บาดเจ็บสาหัส-เสียชีวิต” ไม่ว่าจะกับวัยรุ่นที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ หรือไม่เกี่ยวข้อง หรือเป็นชาวบ้านที่ถูกลูกหลง ภาพที่ได้เห็นกันซ้ำ ๆ มาโดยตลอดก็คือภาพ ความ ’เสียใจ“ ของพ่อแม่ผู้ปกครอง คนในครอบครัว ฝ่ายที่ลูกหลานหรือคนในครอบครัวต้องบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครอง คนในครอบครัวของวัยรุ่นวัยเรียนที่ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก็ใช่ว่าจะไม่เสียใจ ก็ต้องเสียใจที่ลูกหลานทำเช่นนี้ ที่ลูกหลานกลายเป็น “ผู้ร้าย”
วัยรุ่นวัยเรียนที่ฝักใฝ่การก่อเหตุลักษณะนี้อาจสำคัญผิด คิดว่านี่คือการกระทำของฮีโร่ จริง ๆ นี่คือการกระทำที่ทำให้เป็น ’ผู้ร้าย“ เกิดจาก “พฤติกรรมเลียนแบบ” จนเกิดเป็นอาการทางสังคม ทำอะไรตามใจ รวมถึงในมุมลบ แหกกฎสังคม จนตามมาด้วยอาการทางใจ จนกลายเป็นคนที่ใจแตก ’หลงทำอะไรร้าย ๆ“
“คิดผิด ๆ ว่าทำอะไรที่ไม่ดีแบบนี้ได้คือเรื่องที่ดี หมายถึงแน่ เจ๋ง เท่ ทำอะไรที่ไม่ดีแบบนี้ให้แรงกว่าเพื่อน ๆ ได้ หมายถึงแน่กว่า เจ๋งกว่า เท่กว่า”…ในทางจิตวิทยาก็เคยระบุถึงเรื่องนี้ไว้…โดยเน้นว่านี่คือการ ’คิดผิด ๆ“ ซึ่งจากจุดเริ่มการมีพฤติกรรมเลียนแบบ เลียนแบบรุ่นพี่ เลียนแบบเพื่อน จนหลงก่อเหตุที่เป็นเรื่องเลวร้าย นี่ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน นี่ “เป็นเรื่องที่ผิด” และถ้าทำอย่างรุนแรงมากกว่ารุ่นพี่-มากกว่าเพื่อน นี่ก็มิได้หมายถึงแน่กว่า เจ๋งกว่า เท่กว่า นี่ย่อม “เป็นเรื่องที่ผิดมากกว่า” ต่างหาก ใครยังคิดผิด ๆ “คิดเสียใหม่”
ทำเรื่องร้ายแบบนี้จะรอดหรือตายก็ไม่ใช่ฮีโร่
ภาพความเสียใจของคนที่เป็นพ่อแม่ก็ชี้ชัด
บทเรียนมีให้เห็นเพียบ…อย่าไม่ฉลาด!!!!!.